ทนายอานนท์ ยืนยัน ติดโควิด ซ้ำ หลังรู้สึกไข้ขึ้นเจ็บคอ

ทนายอานนท์ ยืนยัน ติดโควิด ซ้ำ หลังรู้สึกไข้ขึ้นเจ็บคอ

ทนายอานนท์ โพสต์ยืนยันว่าตน ติดโควิด ซ้ำ หลังจากที่ออกจากเรือนจำแล้วรู้สึกไข้ขึ้นเจ็บคอ เผยน่าจะติดโควิดหลังได้รับประกันตัว นาย อานนท์ นำภา หรือ ทนายอานนท์ หนึ่งในแกนนำกลุ่มราษฎร ได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นภาพผลตรวจ ATK ยืนยันว่าตนป่วยเป็นโควิด-19 หลังจากที่ศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวเป็นระยะเวลา 3 เดือน เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา

โดยก่อนหน้านี้ ทนายอานนท์ ระบุว่า “ไข้ขึ้น เจ็บคอ ตรวจ ATK ขึ้นขีด 2 จางๆ พรุ่งนี้จะตรวจอีกรอบ 

ขออนุญาตลาพักรักษาตัวที่บ้าน งดพบปะมิตรสหาย” พร้อมกันนี้ นายอานนท์ ยังได้เผยในช่วงท้ายด้วยว่า ตอนก่อนออกเรือนจำตรวจ ATK แล้วผลเป็นลบ คาดว่าจะติดหลังจากออกมาแล้ว

อย่างไรก็ดีนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ทนายอานนท์ ติดโควิด เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 64 นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีและโฆษก กรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า นายอานนท์ ติดเชื้อโควิด-19 โดยเพิ่งตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 64 สันนิษฐานว่า เป็นการติดเชื้อจากนายชูเกียรติ แสงวงศ์ หรือ จัสติน แกนนำคณะราษฎรที่ตรวจพบเชื้อในช่วงระยะเวลาใกล้ๆกัน

“รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข ได้ปรับแนวทางการรักษาผู้ติดเชื้อโควิดแบบไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย และไม่มีภาวะปัจจัยเสี่ยง สามารถรักษาแบบ OPD และแยกกักตัวเองที่บ้านได้ โดยระบบการดูแลรักษาจะมีการติดตามประเมินอาการ 48 ชั่วโมงหากอาการดีขึ้นทุกอย่าง ก็จะให้ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้านต่อจนครบกำหนดระยะเวลากักตัว

แต่หากมีอาการเปลี่ยนแปลงสามารถติดต่อกลับได้ทุกเวลา ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบรักษา ‘เจอ แจก จบ’ เป็นการดูแลผู้ป่วยสีเขียวที่มีประสิทธิภาพ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

นายธนกร กล่าวว่า ทั้งนี้ การรักษาแบบผู้ป่วยนอก “เจอ แจก จบ” ผู้ติดเชื้อโควิดสามารถไปโรงพยาบาลตามสิทธิรักษาหรือใกล้บ้าน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัด 14 จังหวัดรอบ กทม. ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครนายก สิงห์บุรี อ่างทอง นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และโรงพยาบาลสังกัดกรมสุขภาพจิตและสังกัดกรมควบคุมโรค เพิ่มศักยภาพให้การดูแลแบบผู้ป่วยนอก “เจอ แจก จบ” ให้เพิ่มขึ้น

เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป รองรับบริการได้ประมาณ 18,650 รายต่อวัน โดยแนะนำให้ โทรนัดหมายก่อน เพื่อเข้าระบบการรักษาแบบผู้ป่วยนอก เจอ แจก จบ ได้ และกลับมากักตัวที่บ้านอีก 7-10 วัน ตามที่แพทย์แนะนำ โดยแต่ละกองทุนสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น สปสช. สำนักงานประกันสังคม และกรมบัญชีกลาง จะตามจ่ายให้กับผู้ป่วยตามสิทธิการรักษาที่มี

รัฐบาล โว ประชาชนพอใจ ผลงานรัฐบาล ปฏิรูปประเทศ 5 ปี

รองโฆษกสำนักนายกฯ เผย ประชาชนพอใจ ผลงานรัฐบาล หลังจากที่รัฐบาลเร่งสร้างผลงานที่มีรูปธรรมตลอดการทำงานใน 5 ปี นางสาว รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเดินหน้าตามแผนปฏิรูปประเทศที่ปรับปรุงใหม่ 6 ประเด็น จากแผนการปฏิรูป 13 ด้าน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน

โดยนายกรัฐมนตรีขอให้มุ่งมั่นสร้างผลงานให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ การปฏิรูปประเทศตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา ภาครัฐได้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐจนเกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ สร้างความพึงพอใจให้กับประชาชน สอดคล้องกับผลการสำรวจขององค์กรต่างประเทศที่ประเมินประเทศไทย ดังนี้

1. การพัฒนาบริการเพื่อความพึงพอใจของประชาชน ประชาชนมีความพึงพอใจต่อบริการภาครัฐในภาพรวมสูงขึ้นทุกปี ล่าสุด ปี 2564 อยู่ที่ 84.81% โดยด้านเจ้าหน้าที่ให้บริการประชาชนพึงพอใจมากที่สุด และมีความพึงพอใจต่อการให้บริการในรูปแบบ e-Service ของที่ว่าการอำเภอ/ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ 86.53% เพราะผู้รับบริการเห็นว่าสะดวก ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมากขึ้น

ภาครัฐมีการบริการที่รวดเร็วขึ้นจากการปรับลดขั้นตอนและระยะเวลาในการอนุมัติ อนุญาต กว่า 532 ใบอนุญาต ทำให้บริการเร็วขึ้นเฉลี่ย 41.71% ด้านติดต่อราชการประชาชนสามารถติดต่อได้ง่ายขึ้นจากการออกมาตรการให้หน่วยงานภาครัฐยกเลิกการขอสำเนาเอกสารที่ราชการออกให้ประชาชน นอกจากนี้ ยังมีการปรับอัตราค่าธรรมเนียมให้ถูกลง รวมถึงการยกเลิกค่าธรรมเนียมในการให้บริการประชาชนแล้ว จำนวน 111 ใบอนุญาต ทั้งนี้ ยังมีการปรับแก้กฎ ระเบียบเป็นอุปสรรคต่อการให้บริการประชาชนให้ผ่อนคลายมากขึ้น และยังปลดล็อกข้อจำกัดการบริหารราชการในพื้นที่ ส่งผลให้ระบบราชการไทยได้รับรางวัล United Nations Public Service Awards (UNPSA) ขององค์การสหประชาชาติต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่ปี 2560 – 2564

2. การยกระดับศักยภาพของประเทศไทยในการจัดอันดับระดับนานาชาติ 1) อันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยด้านประสิทธิภาพภาครัฐ โดย IMD (IMD Competitive Ranking) ในปี 2564 อยู่อันดับที่ 20 จาก 64 ประเทศ ดีขึ้น 3 อันดับจากปี 2563 มีปัจจัยย่อยด้านนโยบายภาษีที่ติด 1 ใน 6 อันดับแรก และด้านกฎหมายธุรกิจที่อันดับดีขึ้นถึง 8 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2560 2) อันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของประเทศไทย (Ease of Doing Business) โดยธนาคารโลก จัดอันดับดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากอันดับที่ 49 ในปี 2559 เป็นอันดับที่ 21 ในปี 2563 และ 3) อันดับดัชนีรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์โดยสหประชาชาติ ในปี 2563 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 57 จาก 193 ประเทศ ดีขึ้น 20 อันดับจากปี 2559 โดยในด้านการให้บริการออนไลน์ มีคะแนนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป